.png)
22:00
ที่เพิ่มเข้ามาด้วยสีแดงสดนั้นก็คือ "ภาพยนตร์" ไอย๊ะมีภาพยนตร์ขายแล้ว เหมือนเป็นสัญญาณว่าต่อไปภาพยนตร์
ที่คนอัพลงใน youtube ที่ละเมิดลิขสิทธิ์น่าจะโดนตรวจสอบตามลบอย่างจริงจังมากกว่าเดิม
มีการแบ่งเป็น 2 แบบในการซื้อคือแบบธรรมดากับแบบ HD
จากภาพผมลองเข้าไปดูตัวอย่างหนังเรื่อง "ดิ อะเมซิ่ง สไปเดอร์แมน" จะเป็นว่าราคาในระดับ HD นั้นคือ 579 บาท
แบบธรรมดา SD อยู่ที่ 319 บาท พร้อมมีตัวอย่างจาก Youtube ให้ได้ดูก่อนเลือกซื้อกันอีกด้วย
แพงหรือไม่แพงก็พิจารณากันดูนะครับ แต่ที่แน่ ๆ มันทำให้ผมรู้สึกว่าอนาคตอาจจะไม่มีหนังเต็ม ๆ ฟรี ๆ
ให้เราดูใน YouTube อีกแล้วก็เป็นได้ เพราะถ้ายังมีของฟรีให้ดูกันแล้วใน Play Store จะขายได้ยังไง
ด้านความใหม่ของภาพยนตร์ที่อยู่ใน Play Store ถือว่าพอ ๆ กับที่มีใน iTunes Store (TH)
โดยเรื่องล่าสุดที่ทั้งคู่มีเหมือน ๆ กันอาทิ The Lego Movie, 300: Rise of an Empire
ส่วนหนังเก่า ๆ ผมลองค้นหา The Godfather ก็มีครบทั้ง 3 ภาค ส่วนภาพยนตร์ไทยยังไม่มีขายใน Play Store
เรื่องนี้คงต้องรอดูอีกสักพัก
จากที่ลองสุ่มเข้าไปพบว่า 9 ใน 10 เรื่อง มีซับไตเติ้ลภาษาไทย ด้านเสียงในภาพยนตร์พบว่าทุกเรื่อง
ที่เข้าไปเจอให้เสียงภาษาอังกฤษแบบสเตอริโอเท่านั้น ยังไม่เห็นเรื่องไหนมีเสียงแบบ Dolby 5.1 ส่วนเสียงพากษ์ไทยไม่มีแต่แต่ประการใด
อย่างเช่นเรื่อง Jack Ryan: Shadow Recruit ใน Play Store ขายแบบ HD ราคา 649 บาท
ใน iTunes Store (TH) ขาย $19.99 คูณ 32.5 เข้าไปก็เท่ากับ 650 บาท
คิดเป็นเงินไทยก็พอกัน โดยระบบการเช่าก็จะเป็นแบบเดียวกัน iTunes Store (TH) คือเก็บไฟล์ได้ 30 วัน
แต่ถ้ากดดูเมื่อไหร่ต้องดูให้จบใน 48 ชั่วโมง
แต่จากที่หาข้อมูลคือมีวิธีทำให้ดูภาพยนตร์ที่เราซื้อมาบน iPhone, iPod touch และ iPad ได้
ในเว็บ gigaom แนะนำให้ลงแอป YouTube Official แล้วในส่วนของ Playlist
ให้ดูที่ชื่อ Purchased จะมีรายชื่อภาพยนตร์ที่เราซื้อมาปรากฏอยู่ สามารถชมแบบสตรีมมิ่งได้
